บทสวดพระมหาจักรพรรดิ์

บทสวดพระมหาจักรพรรดิ์
Glitter Photos

วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558

การปฎิบัติธรรม



การปฎิบัติธรรม--------------------------------------------------
........การเริ่มต้นปฏิบัติ ด้วยการแสวงหานั้น เป็นการถือเอาทางผิดโดยสิ้นเชิง
........เพราะสิ่งเหล่านี้มีอยู่ในจิตเดิมแท้ของเราเองแล้ว เรื่องของมันก็คือปล่อยให้เห็นแจ้งออกมา ไม่ใช่เที่ยววิ่งแสวงหา.........
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
........นิพพานไม่มีการปรากฏแห่ง การเปลี่ยนแปลงหรือเกิดดับนั้น.....
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
........เป็นการดับสนิทไม่มีเหลือ.และปราศจากอวิชชาตัณหาอุปาทาน......
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
........ส่วนการ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปนั้น เป็นการเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปแห่งอวิชชาทั้งปวง.......
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
.......และเมื่อจิตเราเป็นอิสระอย่างเด็ดขาดิ ต่อเครื่องขัดข้องคืออวิชชาทั้งหลาย การเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป ก็ย่อมไม่มีโดยสภาพแห่งธรรม นั้นแล้ว 
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
.......และไม่มีแม้กระทั่ง ความสิ้นสุดของการทำหน้าที่ของความเกิดขึ้นและความแตกดับ....
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
.......เพราะเนื้อหาแห่งพระนิพพาน คือธรรมชาติล้วนๆ และเป็นสภาพมันเองอยู่อย่างนั้น 
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
.......เป็นความอิสระอย่างเด็ดขาด "โดยที่ไม่ต้อง อาศัยอะไร กับอะไร...เพื่ออะไร..........
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
........นิพพานเป็นการแสดงออกของสภาพธรรมอันเป็นธรรมชาติล้วนๆ การแสดงออกนั้นเป็นการแสดงออกโดยตัวมันเอง และโดยสภาพมันเอง....
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
........จึงไม่ควรให้มีความเห็นใดๆ เข้าไปบัญญัติอีกว่า "นี่คือการแสดงออก.......
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
........เมื่อ อวิชชา ความหลงเห็นเป็นตัวตนเป็นทุกสิ่งอย่างหายไป การปรุ่งแต่งทั้งปวงก็ยุติ สมมุติทั้งปวงก็ยุติ 
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
........เมื่อสิ่งทั้งปวงดับไปตามเหตุ ไม่มีมายาใดๆปรากฏ 
........นี่ คือ( นิพพาน)
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
........จิตที่ปรุงแต่งทุกเรื่อง ไม่ว่าจะหยาบ ละเอียด เลว งาม.ก็ล้วนไม่เที่ยงแท้โดยตัวมันเอง โดยสภาพมันเอง..(สักแต่ว่า)........
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
........ส่วนใหญ่นักปฏิบัติธรรม จะติดปรุงแต่งในธรรมเนืองๆ โดยที่หารู้ไม่ว่า การพิจารณาธรรม แบบซ้ำๆซากๆ 
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
........ก็เป็นจิตที่ปรุงแต่งชนิดหนึ่ง เหมือนเส้นผมที่บังภูเขา ที่เป็น เช่นนี้ก็เพราะ "จิตที่ปรุงแต่งในธรรมก็ไม่เที่ยง".........
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
........จริงๆแล้ว การปฏิบัติธรรมเพื่อหลุดพ้นนั้น คือ เป็นการรู้เห็นตามความเป็นจริงต่อ สัจจธรรม แห่งการไม่ยึดติดนั่นเอง
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
........ทุกสรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวงก็คือ ธรรมอาศัยชั่วคราวเท่านั้น 
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
........โดยอยู่บนเนื้อหาแห่งการไม่ยึดติดในธรรม ทั้งหลาย ทั้งปวงเหมือนเช่นเดิม........
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
........ปัญหาอยู่ตรงที่ว่า หากความไม่รู้ .พาเข้าไปยึดมั่นในเวทนาทั้งหลาย 
จนก่อให้เกิด ตัณหา อุปาทาน แล้วกลายเป็นจิตที่ปรุงแต่งแล้ว กลายเป็นความคิด อันมีเขา มีเรา แล้ว.จะทำอย่างไร?
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
........เมื่อเกิดอัตตาขึ้นแล้ว เป็นจิตที่ปรุงแต่งแล้ว "ก็อย่าเข้าไปเนื่อง อย่าเข้าไปเนิ่นช้า ในความคิดนั้น ในอาการที่จิตปรุงแต่งนั้น...
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
........เมื่อไม่เข้าไปเนื่อง เมื่อไม่เข้าไปเนิ่นช้า " ความคิดนั้นก็ไม่เที่ยง จิตที่ปรุงแต่งนั้นก็ไม่เที่ยง 
........"ไม่เที่ยงโดยสภาพมันเอง ตามหลักธรรมชาติที่ว่า ...ทุกสรรพสิ่งย่อมไม่เที่ยง.......
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
........เมื่อไม่เข้าไปเนื่อง ไม่เข้าไปเนิ่นช้า มันก็ไม่เที่ยง โดยสภาพมันเองอยู่แล้ว นี่คือ ธรรมชาติ
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
........ด้วยเหตุนี้ เมื่อเราเข้าใจว่าอะไรคือทุกข์ ก็อย่าเข้าไปยุ่ง ไปสาละวน 
อย่าเข้าไปเนื่อง อย่าเข้าไปเนิ่นช้า ให้เกิดปัญหาซับซ้อนขึ้นมาอีก 
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
........และเมื่อหยุดเข้าไปยุ่ง ก็เกิดการ คลายกำหนัด อัตตาที่นอนเนืองใน สันดานก็ลดลงทันที
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
........การเข้าไปกำหนดจดจ่อในธรรมนั้นๆิ.มันเป็นการที่เอาจิตเข้าไปดำริ เข้าไปริเริ่ม เพื่อที่จะให้มันชัดเจนตามความรู้สึกของตัวเอง ที่มีความเป็นอัตตาตัวตน แทรกซ้อนอยู่ 
︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾︾
........ซึ่งมันเป็นการเจริญตัณหาอุปาทานขึ้นมาอีกเนืองๆ.
-----------------------------------------------
สัพเพ ธัมมา อนัตตา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ศรัทธา

ศรัทธา